Windows Sandbox มีประโยชน์อย่างไร

Windows Sandbox

ปัจจุบันความปลอดภัยของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากสังคมของเราได้เข้าสู่ยุคดิจิทัลสมบูรณ์แบบ ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกส่งต่อกันในรูปแบบของไฟล์ข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร รูปภาพ วีดีโอ และอื่นๆ แต่บางครั้งเราก็ไม่สามารถมั่นใจได้ว่า ไฟล์ที่เราจะเปิดนั้นมีความปลอดภัยมากน้อยขนาดไหน ถึงแม้จะมาจากต้นทางที่น่าเชื่อถือ แต่ถ้าต้นทางนั้นมีปัญหา เราก็อาจจะไม่รู้อยู่ดี

ผู้เขียนขอแนะนำโซลูชันที่สามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ทาง Microsoft ได้เล็งเห็นปัญหาดังกล่าว จึงได้สร้างแอปพลิเคชันที่มาช่วยให้เราแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ทำให้เครื่องของเรามีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และยังสามารถเปิดไฟล์ที่ไม่มีความมั่นใจ หรือมาจากแหล่งที่มาที่ไม่ชัดเจน แต่มีความจำเป็นต้องเปิดดู

โซลูชันนี้มีชื่อว่า Windows Sandbox ซึ่งทาง Microsoft ได้มีการเพิ่มฟีเจอร์นี้มาให้ ตั้งแต่ Microsoft Windows 10 รุ่น Professional โดยผู้ใช้งานสามารถติดตั้ง Windows Sandbox ผ่านทาง Add remove feature ตามภาพด้านล่าง จากนั้นทำตามขั้นตอนการติดตั้ง จนถึงการ restart เครื่องคอมพิวเตอร์ ตัว Windows Sandbox ก็จะสามารถใช้งานได้

หน้าจอเพิ่มฟีเจอร์ Windows Sandbox
หน้าจอเพิ่มฟีเจอร์ Windows Sandbox

วิธีการใช้งาน Windows Sandbox

หลังจากติดตั้งแอปพลิเคชันเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกไปที่ปุ่ม Start แล้วพิมพ์ว่า Windows Sandbox จะปรากฎ ไอคอนดังภาพนี้

ไอคอนของ Windows Sandbox

จากนั้นให้คลิกที่ไอคอนเพื่อเปิดแอปพลิเคชัน Windows Sandbox ขึ้นมา จะมีหน้าจอที่มีลักษณะเป็นเสมือนอีกเครื่องหนึ่งดังภาพด้านล่าง

.

หน้าจอบน Windows Sandbox
หน้าจอบน Windows Sandbox

เราสามารถใช้งานเครื่องเสมือนนี้ได้ โดยไม่มีความเกี่ยวข้องกับเครื่องหลักของเรา สามารถนำไฟล์ที่ไม่มั่นใจ หรือต้องการจะทดสอบแอปพลิเคชัน ก็สามารถนำมาทดสอบที่ Windows Sandbox ได้ โดยไม่มีผลกระทบกับเครื่องหลักเลย ซึ่งถ้าทดสอบแล้วเกิดปัญหาก็สามารถปิดแล้วเปิดใหม่ได้ทันที โดยจะได้เครื่องใหม่ทุกครั้งที่เปิดแอปพลิเคชันตัวนี้

ข้อดีของ Windows Sandbox

Windows Sandbox เป็นเสมือนคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง ที่สามารถทำงานได้เหมือนเครื่องหลัก แต่จะไม่มีแอปพลิเคชันต่างๆ เหมือนเครื่องหลักของเรา เป็นเครื่องเปล่าที่รันอยู่บน Windows เดียวกับเครื่องหลักจึงมีข้อดีคือ

  1. สามารถ Copy ไฟล์เข้าไปวางไว้ได้โดยผ่านทาง Clipboard ของเครื่อง หรือ Copy ข้อมูลออกจากเครื่องเสมือนนี้ได้เช่นกัน
  2. สามารถรันแอปพลิเคชันหรือไฟล์ต่างๆ บนเครื่องเสมือนนี้ได้ โดยไม่มีผลกระทบกับเครื่องหลัก
  3. หลังจากที่เราปิด หรือออกจาก Windows Sandbox จะไม่มีการเก็บอะไรไว้เลย แต่ถ้าเราต้องการเก็บข้อมูลไว้ ให้ทำการ Copy ข้อมูลออกมาก่อนที่จะปิดเครื่อง
  4. ใช้ทรัพยากรของเครื่องคอมพิวเตอร์ค่อนข้างน้อยในการทำงาน และทำงานได้เร็วใกล้เคียงกับเครื่องหลัก

บทสรุป

Windows Sandbox เป็นแอปพลิเคชันที่ติดมากับ Windows 10 Professional ขึ้นไป โดยจะต้องทำการติดตั้งฟีเจอร์เพิ่มเติมเอง โดย Windows Sandbox นี้เปรียบเสมือนเครื่องใหม่อีกเครื่อง ที่เป็นเครื่องเปล่าไว้สำหรับทดสอบหรือรันไฟล์ที่เราไม่มั่นใจ ซึ่งจะไม่มีผลกระทบกับเครื่องหลัก และหลังจากปิดแอปพลิเคชันแล้ว ทุกอย่างก็จะหายไป แต่ถ้าต้องการจะเก็บข้อมูลบางอย่างไว้ ให้ทำการ Copy ออกมาไว้ที่เครื่องหลักก่อน

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ Microsoft

Microsoft 365 Copilot ผู้ช่วยใหม่ที่จะทำให้งานของคุณง่ายขึ้น

Garnet ระบบแคชน้องใหม่ มาแรงจาก Microsoft

    wpChatIcon