ความเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบต่อ Digital Marketingบน Facebook Platformและทางออกในการวางกลยุทธ์ใหม่ในปี 2022

ช่วงปลายปีที่ผ่านมา นอกจาก Facebook จะประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta แล้ว ยังมีประกาศการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ตามมาอีกหลายเรื่อง มาดูกันว่ามีอะไรที่กระทบกับการทำ Digital Marketing บน Facebook ที่นักการตลาดออนไลน์ต้องเร่งทำความเข้าใจและปรับตัวกันบ้าง

การยกเลิก Third-Party Cookies ในปี 2022 และการปรับเปลี่ยนนโยบายความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีความเปลี่ยนแปลงของระบบปฏิบัติการ iOS14 ของ Apple ที่ไม่อนุญาตให้แอปพลิเคชันต่างๆ เก็บข้อมูลของผู้ใช้งานได้หากไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งาน ส่งผลให้การจัดเก็บข้อมูลพฤติกรรมต่างๆ ของผู้ใช้งานทำได้ยากขึ้น ทำให้การทำงานของ AI หลังบ้านของ Facebook ในการหากลุ่มเป้าหมายที่จะยิง Ads ให้ได้ผลมีประสิทธิภาพลดลง
Facebook มีแผนที่จะยกเลิกการโฆษณาแบบระบุกลุ่มเป้าหมายใน keyword ประเภทที่มี “ความอ่อนไหวสูง” เช่น สุขภาพ เชื้อชาติ การเมือง ศาสนา และรสนิยมทางเพศ โดยบริษัทจะเริ่มแผนลบ keyword ที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ในปี 2022 ส่งผลให้ธุรกิจที่ใช้ keyword เหล่านี้ ได้รับอุปสรรคในการยิง Ads
การกำหนดรายละเอียดของกลุ่มเป้าหมายในประเทศไทยถูกจำกัด หากทำการเลือกกลุ่มเป้าหมายสำหรับแคมเปญโฆษณาเป็นผู้ใช้งานที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีในประเทศไทย สามารถกำหนดได้เพียงข้อมูลบางอย่างเท่านั้น ซึ่งจะมีการจำกัดให้ตั้งค่าได้น้อยลงมาก ทำให้เราไม่สามารถกำหนดข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความสนใจได้อีกต่อไป ซึ่งส่งผลให้การทำแคมเปญโฆษณาที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มอายุต่ำกว่า 20 ปี นั้นมีความแม่นยำน้อยลง
การให้ความสำคัญกับการรีวิวให้คะแนนเพจมากขึ้น เพจที่ได้รับคะแนน ดาว หรือรีวิวที่ดีจากลูกค้า จะได้ผลดีในการลดต้นทุนในการทำโฆษณามากกว่าเพจที่ได้คะแนนน้อยกว่า
การทยอยยกเลิกหลายฟังก์ชันบน Facebook Fanpage มาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และเปลี่ยนมาใช้งานบน Business Suite การออก tool ต่างๆ ที่เป็นตัวช่วยในการวางแผนทำการตลาดบน Business Suite มากขึ้น การปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการทำงานของ AI ให้มีความซับซ้อนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้นักการตลาดต้องเร่งเรียนรู้ทำความเข้าใจ tool เหล่านี้ เพื่อให้ได้เปรียบและนำคู่แข่งให้ได้

และอาจจะยังมีหลายเรื่องที่จะทยอยประกาศใช้ออกมาในปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข่าวร้ายอย่างมาก เพราะการทำการตลาดออนไลน์บน Facebook แบบเดิมๆ จะไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าเดิมอีกต่อไป

แต่ถ้าหากดูให้ดีแล้วจะเห็นว่านโยบายโดยรวมส่วนใหญ่ที่ปรับใหม่นั้น เน้นไปที่การก้าวเข้าสู่ยุค Privacy-first และ เน้นที่คุณภาพของการทำการตลาดและดูแลลูกค้า ต้องทำการตลาดแบบใส่ใจมากขึ้น มีความเข้าใจความต้องการของกลุ่มลูกค้าของเราจริงๆ สื่อสารและดูแลลูกค้าอย่างจริงใจ โปร่งใส เอาชนะใจลูกค้า สร้างความความผูกพันกับแบรนด์ จึงจะเป็นทางออกของการทำ Marketing อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปจากนี้ได้

จากหนังสือ Brand Storydoing Wins สร้างแบรนด์ด้วยเรื่องเล่า ไม่เท่าลงมือทำ เขียนโดย คุณดลชัย บุณยะรัตเวช อ้างถึงคำกล่าวหนึ่งว่า

“Good companies are storytellers. Great Companies are storydoers”

การลงมือทำจริงจึงจะกลายเป็นเรื่องเล่า ที่มัดใจลูกค้าได้อย่างยั่งยืน